เทคโนโลยีมอนิเตอร์ LCD ย่อมาจาก Liquid Crystal Display ซึ่งเป็นจอแสดงผลแบบ (Digital )
เทคโนโลยี มอนิเตอร์ LCD ย่อมาจาก Liquid Crystal Display ซึ่งเป็นจอแสดงผลแบบ  (Digital )  โดยภาพที่ปรากฏขึ้นเกิดจากแสงที่ถูกปล่อยออกมาจากหลอดไฟด้านหลังของจอภาพ  (Black Light) ผ่านชั้นกรองแสง (Polarized filter) แล้ววิ่งไปยัง  คริสตัลเหลวที่เรียงตัวด้วยกัน 3 เซลล์คือ แสงสีแดง  แสงสีเขียวและแสงสีนํ้าเงิน กลายเป็นพิกเ:ซล (Pixel) ที่สว่างสดใสเกิดขึ้น
เทคโนโลยีที่พัฒนามาใช้กับ LCD นั้นแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ
- Passive Matrix หรือที่เรียกว่า Super-Twisted Nematic (STN)  เป็นเทคโนโลยีแบบเก่าที่ให้ความคมชัดและความสว่างน้อยกว่า  ใช้ในจอโทรศัพท์มือถือทั่วไปหรือจอ Palm ขาวดำเป็นส่วนใหญ่
- Active Matrix หรือที่เรียกว่า Thin Film Transistors (TFT) สามารถแสดงภาพได้คมชัดและสว่างกว่าแบบแรก ใช้ในจอมอนิเตอร์หรือโน๊ตบุ๊ก
 เทคโนโลยี TFT LCD Mornitor
TN + Film (Twisted Nematic + Film)Twisted Nematic  (TN) คือสารประเภทนี้จะมีการจัดโครงสร้างโมเลกุลเป็นเกลียว  แต่ถ้าเราผ่านกระแสไฟฟ้าเข้าไปมันก็จะคลายตัวออกเป็นเส้นตรง  เราใช้ปรากฏการณ์นี้เป็นตัวกำหนดว่าจะให้แสงผ่านได้หรือไม่ได้ Twisted  Nematic (TN)  ผลึกเหลวชนิดนี้จะให้เราสามารถเปลี่ยนทิศทางการสั่นของคลื่นแสงได้ 90? ถึง  150? คือเปลี่ยนจากแนวตั้งให้กลายเป็นแนวนอน  หรือเปลี่ยนกลับกันจากแนวนอนให้เป็นแนวตั้งก็ได้ ด้วยจุดนี้เองทำให้การค่า  Response Time (ค่าตอบสนองสัญญาณเทียบกับเวลา) มีค่าสูง
IPS (In-Plane Switching or Super-TFT)
การจัดโครงสร้างของผลึกจากเดิมที่วางไว้ตามแนวขนานกับแนวตั้ง  (เทียบกับระนาบ) เปลี่ยนมาเป็นวางตามแนวขนานกับระนาบ เรียกจอชนิดนี้ว่า IPS  (In-Plane Switching or Super-TFT)  จากเดิมขั้วไฟฟ้าจะอยู่คนละด้านของผลึกเหลวแต่แบบนี้จะอยู่ด้านเดียวกันแปะ หัวท้ายเพราะย้ายแนวของผลึกให้ตั้งขึ้น (เมื่อมองจากมุมมองของคนดูจอ)  เป้าหมายเพื่อออกแบบมาแก้ไขการที่มุมของผลึกเหลวจะเปลี่ยนไปเมื่อมันอยู่ ห่างจากขั้วไฟฟ้าออกไป ปัญหานี้ทำให้จอมีมุมมองที่แคบมาก จอชนิด IPS  จึงทำให้สามารถมีมุมมองที่กว้างขึ้น แต่ข้อเสียของจอชนิดนี้ก็คือ  ต้องใช้ทรานซิสเตอร์สองตัวต่อหนึ่งจุดทำให้เปลืองมาก  นอกจานั้นการที่มีทรานซิสเตอร์เยอะกว่าเดิมทำให้แสงจากด้านหลังผ่านได้น้อย ลง ทำให้ต้องมี Backlite ที่สว่างกว่าเดิม ความสิ้นเปลืองก็มากขึ้นอีกด้วย
MVA (Multi-Domain Vertical Alignment)
บริษัท Fujisu ค้นพบผลึกเหลวชนิดใหม่ที่ให้คุณสมบัติ  คือทำงานในแนวระนาบโดยธรรมชาติและต้องการทรานซิสเตอร์เพียงตัวเดียวก็สามารถ ให้ผลลัพธ์เหมือน IPS เลยเรียกว่าว่าชนิด VA (Vertical Align)  จอชนิดนี้จะไม่ใช้ผลึกเหลวที่ทำงานเป็นเกลียวอีกต่อไป แต่จะมีผลึกเป็นแท่ง  ซึ่งปกติถาไม่มีไฟป้อนเข้าไปหาก็จะขวางจอเอาไว้ทำให้เป็นสีดำ  และเมื่อได้รับกระแสไฟฟ้าก็จะตั้งฉากกับจอให้แสงผ่านเป็นสีขาว  ทำให้จอชนิดนี้มีความเร็วสูงมาก เพราะไม่ได้คลี่เกลียว  แต่ปรับทิศทางของผลึกเท่านั้น จอชนิดนี้จะมีมุมมองได้กว้างราว 160 องศา
ปัจจุบันบริษัท Fujisu ได้ออกจอชนิดใหม่คือ MVA (Multi-Domain Vertical  Alignment) ออกมาแก้บั๊กตัวเอง คือจากรูจะเห็นว่าด้วยความที่เป็นผลึกแท่ง  และองศาของมันใช้กำหนดความสว่างของจุด ดังนั้นเมื่อมองจากมุมมองอื่น  ความสว่างของภาพก็จะเปลี่ยนไปเลย เพราะถูกผสมในอีกรูปแบบหนึ่ง จอ  Multidomain ก็จะพยายามกระจายมุมมองให้แต่ละ Pixel  นั้นมีผลึกหลายมุมเฉลี่ยกันไป  ทำให้ผลกระทบจากการกระมองมุมที่ต่างออกไปหักล้างกันเอง
เปรียบเทียบความสามารถระหว่างจอ LCD กับจอ CRT
(+) ดีมาก 
(~) พอรับได้ 
(-) ระดับต่ำ
 | Features Flat | Panel Displays (TFTs)  | Tube Monitors (CRTs) | 
 | Brightness | (+) 170 to 250 cd/m2 | (~) 80 to 120 cd/m2 | 
 | Contrast ratio | (~) 200:1 to 400:1 | (+) 350:1 to 700:1 | 
 | Viewing angle (contrast) | (~) 110 to 170 degrees | (+) over 150 degrees | 
 | Viewing angle (color) | (-) 50 to 125 degrees | (~) over 120 degrees | 
 | Convergence errors | (+) none | (~) 0.0079 to 0.0118 inch (0,20 to 0,30 mm) | 
 | Focus | (+) very good | (~) satisfactory to very good | 
 | Geometry/linearity errors | (+) none | (~) possible | 
 | Pixel errors | (-) up to 8 | (+) none | 
 | Input signal | (+) analog or digital | (~) only analog | 
 | Scaling for different resolutions | (-) none or by low-performance interpolation methods | (+) very good | 
 | Gamma (color tuning for the human eye) | (~) satisfactory | (+) photo realistic | 
 | Uniformity | (~) often brighter at the edges | (~) often brighter in the center | 
 | Color purity/color quality | (~) good | (+) high | 
 | Flickering | (+) none | (~) not visible over 85 Hz | 
 | Response time | (-) 20 to 30 msec | (+) not noticeable | 
 | Power consumption | (+) 25 to 40 watts | (-) 60 to 150 watts | 
 | Space requirements/weight | (+) flat design, light weight | (-) require a lot of space, heavy | 
 
เทคโนโลยีมอนิเตอร์แบบ LCD มีจุดเด่นหลายประการคือ 
ขนาดเล็กกะทัดรัดและนํ้าหนักเบาด้วยการทำงานที่ไม่ต้องอาศัยปืนยิง อิเล็กตรอน จึงช่วยให้ด้านลึกของจอภาพมีขนาดสั้นกว่ามอนิเตอร์แบบ CDT ถึง 3  เท่าและด้วยรูปร่างที่แบนราบทางด้านหน้าและด้านหลัง  ในบางรุ่นจึงมีอุปกรณ์เสริมพิเศษสำหรับติดฝาผนังช่วยให้ประหยัดพื้นที่มาก ยิ่งขึ้น พื้นที่การแสดงผลเต็มพื้นที่
จากเทคโนโลยีพื้นฐานในการออกแบบ ทำให้จอมอนิเตอร์แบบ LCD  สามารถแสดงผลได้เต็มพื้นที่เมื่อเปรียบเทียบกับแบบ CDT ขนาด 17 นิ้วเท่ากัน  พื้นที่แสดงผลที่กว้างที่สุดจะอยู่ที่ 15 นิ้วกว่าๆ เท่านั้น  ให้ภาพที่คมชัด มีรายละเอียดสูง และมีสัดส่วนที่ถูกต้อง  เนื่องจากมอนิเตอร์มีความแบนราบจริง  ช่วยถนอมสายตาและมีอัตราการแผ่รังสีที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพตํ่ามาก  ประหยัดพลังงานไฟฟ้าด้วยการใช้พลังงานไฟฟ้าที่ตํ่ากว่าจอ CDT ถึง 60  เปอร์เซ็นต์ ความสามารถในการรองรับอินพุต (Input)  ได้หลายๆแบบพร้อมกันเนื่องด้วยมอนิเตอร์แบบ LCD  สามารถรับสัญญาณจากแหล่งสัญญาณดิจิตอลอื่นๆได้ เช่น  โทรทัศน์หรือเครื่องเล่นดีวีดีและบางรุ่นสามารถทำภาพซ้อนจากหลายแหล่งข้อมูล ได้ จึงทำให้จอมอนิเตอร์แบบ LCD  เป็นได้ทั้งเครื่องรับโทรทัศน์และจอมอนิเตอร์ในเวลาเดียวกัน  โดยไม่จำเป็นต้องซื้อมอนิเตอร์หลายๆตัวมาใช้งาน
ที่มา : 
http://www.lcdspec.com/web/#